พริกไทยดำ

ชื่อวิทยาศาสตร์  : Piper nigrum L.

ชื่อวงศ์                : Piperaceae

ส่วนที่ใช้เป็นยา   : ผลแก่จัดแต่ยังไม่สุด นำมาตากแห้ง

ลักษณะภายนอก :

ผลรูปกลม ผลแห้งมีผิวสีดำ ผิวนอกหยาบ มีรอยย่น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราว 4-6 มม. เปลือกนอกสีน้ำตาลเข้มออกดำ มีรอยย่นคล้ายร่างแห ที่ขั้วมีรอยก้านผล เปลือกผลชั้นนอกและชั้นกลางลอกออกง่าย เปลือกชั้นในบางและค่อนข้างแข็ง 1 ผลมี 1 เมล็ด ผงพริกไทยดำมีสีน้ำตาล-ดำ กลิ่นฉุน รสเผ็ดเล็กน้อย ทางยานิยมใช้พริกไทยดำมากกว่าพริกไทยล่อน

รสยาและสรรพคุณยาไทย :

รสเผ็ดร้อน เป็นยาขับลม รักษาอาการปวดกระเพาะอาหาร อาเจียน แก้ลม จุกเสียด แน่นท้อง ขับลมในกระเพาะ ท้องเสีย แก้ปวดท้อง ปวดฟัน แก้ท้องอืด อาหารไม่ย่อย แก้หวัด ทำให้น้ำลายออกมาก ช่วยให้น้ำย่อยหลั่งมากขึ้น ทำให้อยากอาหาร แก้อ่อนเพลีย กษัยกร่อนแห้ง  แก้บิด ปวดเมื่อยตามร่างกาย ตะคริว แผลปวดเพราะสุนัขกัด ฝี สะอึก ห้ามเลือด ยาหลังคลอดบุตร ปวดศีรษะ แก้อาหารเป็นพิษ ตำรายาอินเดีย ใช้กลั้วคอ แก้เจ็บคอ ลดไข้

รูปแบบและขนาดวิธีใช้ยา :

ลดอาการท้องอืดเฟ้อ  แน่นจุกเสียดและช่วยขับลม  ใช้ผลบดเป็นผง ปั้นเป็นลูกกลอน  รับประทานครั้งละ  0.5-1  กรัม (ประมาณ 15-20 เมล็ด) หรือ จะใช้ผงชงน้ำดื่ม รับประทาน  3  เวลาหลังอาหาร

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ :

พริกไทยดำมีน้ำมันหอมระเหย ร้อยละ 2-4 มีสารแอลคาลอย์เป็นสำคัญ ตัวอย่างเช่น Piperine, Piperidine, Piperittine, Piperyline, Piperolein A, B เป็นต้น

ที่มา :

ตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาเภสัชเวชกรรม โดย กองการประกอบโรคศิลปะสำนักงาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

Copyright © 2017. All rights reserved.